"เตือนภัยเกษตรกร ระวังโรคแอนแทรคโนสในสตรอว์เบอร์รี่" เนื่องจากสภาพอากาศเย็นลง และมีลมแรง เกษตรกรควรหมั่นตรวจ

วันที่บันทึก 2020-12-12 21:15:00.000 ชื่อผู้บันทึก Chayanan Sira-thawiphong

เนื่องจากสภาพอากาศเย็นลง และมีลมแรง เกษตรกรควรหมั่นตรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอในทุกระยะการเจริญเติบโต เพื่อป้องกันผลผลิตเสียหายจากโรคดังกล่าว ข้อสังเกตลักษณะ/ อาการที่อาจพบ อาการบนก้านใบ และลำต้น พบแผลสี ม่วงแดงขนาดเล็ก ขยายลุกลามไปตาม ความยาวของก้านใบและลำต้น ต่อมา เปลี่ยนเป็นแผลสีน้ำตาล เนื้อเยื่อบริเวณ แผลแห้ง ทำให้เกิดรอยคอด หากอาการ รุนแรง ต้นจะเหี่ยว และตายในที่สุด อาการบนไหล พบแผลสีม่วงแดงขนาด เล็ก ขยายลุกลามไปตามความยาวของ สายไหล และเปลี่ยนเป็นแผลสีน้ำตาล ในเวลาต่อมา ทำให้เกิดรอยคอดของ ไหลบริเวณที่เป็นแผล อาการบนผล แผลมีลักษณะฉ่ำน้ำเป็นสี น้ำตาลเข้ม เนื้อเยื่อรอบขอบแผลเปลี่ยน เป็นสีซีด แผลยุบตัวลง เมื่ออาการรุนแรง มากขึ้นจะขยายใหญ่และทำให้ผลเน่า ในสภาพที่มีอากาศชื้นอาจพบกลุ่มสปอร์สี ส้มของเชื้อราสาเหตุโรคที่บริเวณแผล

แนวทางป้องกัน/แก้ไข

1. ตรวจแปลงปลูกสม่ำเสมอ เมื่อพบโรค ตัด ส่วนที่เป็นโรคนำไปทำลายนอกแปลงปลูก แล้ว พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชฟลูโอไพแรม + ไตรฟลอกซีสโตรบิน 25% + 25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ฟลูโอไพแรม + ทีบูโคนาโซล20% + 20% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 5 วัน

2. แปลงที่พบการระบาดของโรค หลังจากเก็บ เกี่ยวผลผลิตแล้ว ให้เก็บซากพืชไปทำลาย นอกแปลงปลูก

3. ใช้ส่วนขยายพันธุ์จากแหล่งปลูกที่ไม่มีการ ระบาดของโรค และส่วนขยายพันธุ์ไม่มีอาการ ของโรค

ที่มา กรมวิชาการเกษตร

http://at.doa.go.th/ew/backoffice/upload/265dec631.pdf