ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะได้รับผลกระทบก่อน เริ่มในวันที่ 31 ก.ค. - 1 ส.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย เมื่อเวลา 07.00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน)แล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น. พายุนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.0 องศาตะวันออก กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และจะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 2-3 สิงหาคม 2563 โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ในช่วงเวลาดังกล่าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 31 ก.ค. - 1 ส.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 4 ส.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ดังนั้นในช่วงวันที่ 5 – 6 ส.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 31 ก.ค. - 4 ส.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 5 - 6 ส.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
นช่วงวันที่ 1 - 4 ส.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 5 – 6 ส.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา
เครดิตภาพ: ชญาน์นันท์ ศิระทวีพงศ์