ขอให้ประชาชนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น เนื่องจากพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 14-15 มิ.ย. 63 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 18 มิ.ย. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ด้านรับลมของภาคเหนือ และภาคกลาง ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 12 – 13 มิ.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 12 - 13 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
และในช่วงวันที่ 14 - 16 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 17 – 18 มิ.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 12 – 13 มิ.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 มิ.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา
เครดิตภาพ: นางสาวชญาน์นันท์ ศิระทวีพงศ์