ซึ่งจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 20 - 22 เม.ย. 63 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก ส่งผลทำให้บริเวณดังกล่างมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 23 – 25 เม.ย. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 20 - 23 เม.ย. 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัด
อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37-43 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 24 – 25 เม.ย. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 20 - 22 เม.ย. 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23 – 25 เม.ย. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อนละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 20 - 23 เม.ย. 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 24 – 25 เม.ย. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อนละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา